การดื่มเครื่องดื่มต้องใส่น้ำตาลน้อยที่สุดและควรดื่มวันละ 8-10 แก้วทุกวัน ตื่นเช้าควรดื่มน้ำมะนาว 1 ผล ในน้ำอุ่นและขนมปังไม่เกิน 1 แผ่น ก่อนอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำมะนาวครึ่งผลผสมน้ำเย็น ก่อนอาหารกลางวันและอาหารเย็นจะช่วยให้อิ่ม อย่าให้ดื่มขณะที่ทานอาหาร ถ้ารู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารไม่ว่ามื้อใด ให้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือน้ำส้ม น้ำมะนาวสักแก้ว
วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การดื่มเครื่องดื่มต้องใส่น้ำตาลน้อยที่สุดและควรดื่มวันละ 8-10 แก้วทุกวัน ตื่นเช้าควรดื่มน้ำมะนาว 1 ผล ในน้ำอุ่นและขนมปังไม่เกิน 1 แผ่น ก่อนอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำมะนาวครึ่งผลผสมน้ำเย็น ก่อนอาหารกลางวันและอาหารเย็นจะช่วยให้อิ่ม อย่าให้ดื่มขณะที่ทานอาหาร ถ้ารู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารไม่ว่ามื้อใด ให้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือน้ำส้ม น้ำมะนาวสักแก้ว
วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาออกโรงเตือนถึงอันตรายจากการดื่มน้ำมากเกินไประหว่างออกกำลังกาย จนทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียมฉับพลัน กระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
ผลการศึกษานี้ รายงานในงานประชุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ โดยระบุว่า ผู้หญิง นักกีฬาสมัครเล่น นักวิ่งทางไกล และนักกรีฑาซึ่งมีน้ำหนักตัวน้อย เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโซเดียมในเลือดลดลงต่ำ จนเป็นอันตราย และไม่พบว่า เครื่องดื่มบำรุงกำลงสำหรับนักกีฬา และเกลืออัดเม็ด สามารถลดความเสี่ยงในผู้ที่ดื่มน้ำมากเกินไป ระหว่างการออกกำลังกายได้แต่อย่างใด
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เลี่ยงการดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินกว่าน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปกับเหงื่อและปัสสาวะ แถมฝากไปถึงผู้จัดการแข่งขันวิ่งมาราธอน หรือกีฬาชนิดอื่นที่แข่งขันกันเป็นเวลานาน ให้ตั้งจุดแจกน้ำดื่มตามระยะทางที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้นักกีฬาได้รับน้ำมากเกินไป
ห้องน้ำ…มุมที่เราหลายคนระวังตัวน้อยที่สุดในบ้าน ถ้าดูแลไม่ดีพอ ในห้องน้ำจะกลายเป็นแหล่งชุมนุมของเชื้อโรคขนาดเล็ก ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามากมาย
1. ผ้าม่านพลาสติก
มีคำยืนยันจากนักจุลชีววิทยาว่า คราบสีดำที่เกาะอยู่กับผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำนั้น ก็คือแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้แบคทีเรียชนิดนี้เติบโตได้ดีก็คือ ละอองจากการเรอ จาม และไอของคน
2. ฟองน้ำถูตัว
ฟองน้ำที่ใช้ถูตัวที่เป็นสิ่งชำระความสกปรกตามซอกต่าง ๆ ของร่างกาย แถมยังต้องเปียกชื้นอยู่เกือบตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเป็นอย่างดี
3. แปรงสีฟัน
ห้องน้ำมีเชื้อโรคหลายชนิด หนึ่งในเชื้อโรคนั้นคือ โรตาไวรัสและเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสที่ติดโดยการสัมผัสผ่านทางจมูกและปาก เพราะฉะนั้นต้องระวังของใช้ส่วนตัว (ชิ้นเดียว) ที่มักวางอยู่ในห้องน้ำและต้องเอาเข้าปากอย่างแปรงสีฟันเป็นพิเศษ
4. อ่างล้างหน้า
เป็นที่อุดมไปด้วยเชื้อโรคนานาชนิด โดยเฉพาะแบคทีเรียที่ชอบความเปียกชื้นเป็นพิเศษ ในบางบ้านอาจมีเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาศัยอยู่ด้วย
5. ชักโครก
เครื่องใช้ที่รองรับของเสียทั้งหลายจากร่างกาย ไม่ต้องบอกก็พอเดากันได้ว่า การทำธุระส่วนตัวแต่ละครั้งจะมีเชื้อโรคแพร่กระจายมากมายแค่ไหน แถมใต้ฝารองนั่งก็ยังมีเชื้อโรคต่าง ๆ แฝงอยู่ไม่น้อย
6. ผ้าเช็ดมือ-เช็ดเท้า
เพราะเปียกชื้นอยู่แทบตลอดเวลา หากคุณแม่มีแต่เช็ด เช็ด เช็ด แล้วก็เช็ด แต่ไม่เปลี่ยนผืนบ้าง ผ้าเช็ดมือ-เช็ดเท้าจะกลายเป็นที่อาศัยของเชื้อรา
ห้องน้ำอากาศไม่ถ่ายเทและชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นยอดทีเดียว กิจวัตรประจำวันทุกวันของเราในห้องน้ำ ก็มีส่วนทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้อย่างดี ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องรู้เท่าทันจุดที่มีเชื้อโรคหมักหมมหรือก่อตัวได้ง่าย และหมั่นทำความสะอาดแหล่งเพาะเชื้อโรคนั้นเป็นประจำ